ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดให้การต้อนรับนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการประชุมติดตามการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดร้อยเอ็ด
วันนี้ (8 ตุลาคม 2562) เวลา 09.30 น. นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยนายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายดำรงค์ สิริวิชย อิ่มวิเศษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายทวี จงประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายชำนาญ ชื่นตา ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด นายสนอง ดลประสิทธิ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย นายอำเภอ เข้าร่วมการประชุมติดตามการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดร้อยเอ็ด ณ ห้องประชุมพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม
ที่ประชุมได้รับทราบและได้มีการติดตามการดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟู เยียวยาให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด โดยรัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัยและให้ความสำคัญการแก้ปัญหาอุทกภัย ตั้งแต่ก่อนเกิดภัย ระหว่างเกิดภัย และหลังเกิดภัย ซึ่งในช่วงหลังเกิดภัย ได้สั่งการเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเกษตร ด้านที่อยู่อาศัย ตลอดจนด้านการดำรงชีพและอื่นๆ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึงและเป็นธรรม ซึ่งเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติงบกลาง ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ครัวเรือนละ 5,000 บาท ซึ่งจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังนี้ คือ
1. น้ำท่วมถึงบ้านพักอาศัยโดยฉับพลัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
2. บ้านพักอาศัยถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันไม่น้อยกว่า 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
3. บ้านพักอาศัยได้รับความเสียหายจากอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม
โดยเงื่อนไขทั้ง 3 กรณีต้องเป็นบ้านที่อยู่อาศัยประจำในพื้นที่ที่ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย หรือ ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และหากประสบภัยซ้ำซ้อนทั้ง 3 กรณี จะได้รับการช่วยเหลือ 1 กรณี และยังมีเงินช่วยเหลือจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้
1. ค่าจัดการศพ รายละ 50,000 บาท
2. ค่าเงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต รายละ 30,000 บาท และกรณีที่ผู้เสียชีวิต
มีบุตรอายุไม่เกิน 25 ปี จะได้รับเพิ่มอีกครอบครัวละ 50,000 บาท
3. ค่าวัสดุในการก่อสร้าง ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย โดยแบ่งเป็น
– เสียหายทั้งหลัง (เสียหายเกิน 70 %) ไม่เกินหลังละ 220,000 – 230,000 บาท
– เสียหายมาก (เสียหาย 30 – 70 %) ไม่เกินหลังละ 70,000 บาท
– เสียหายน้อย (เสียหายน้อยกว่า 30 %) ไม่เกินหลังละ 15,000 บาท ซึ่งกรณีที่เสียหายทั้งหลังและเสียหายมาก จะได้รับค่าเครื่องอุปโภคและเครื่องใช้อื่น ๆ ที่จำเป็นแก่ครอบครัวอีก ครัวเรือนละ 5,000 บาท
ในการนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้จังหวัดเร่งสำรวจความเสียหายให้ครอบคลุมในทุกมิติ เช่น การครองชีพพื้นฐาน
ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร เครื่องมือทำมาหากิน ไม่ให้เกิดการตกหล่น ทุกครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจะต้องได้รับการช่วยเหลือเยียวยา โดยขอให้ทุกหน่วยงาน ได้น้อมนำพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มายึดถือเป็นแนวทางการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันดูแลประชาชนผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ แม้บางคนจะไม่เข้าหลักเกณฑ์ก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปดูด้วย ซึ่งภาครัฐไม่ได้ทอดทิ้งให้พี่น้องประชาชนเผชิญปัญหาเพียงลำพังอย่างแน่นอน
//////////////
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดร้อยเอ็ด/รายงาน