PTV/’เอกรัฐ พลซื่อ’ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีประธานในพิธีมอบโค โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด
/สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด/ข่าว
เมื่อวันนี้ 20 ส.ค. 2568 เวลา 10.00 น. ณ ณ ที่ทำการกำนัน ตำบลเชียงขวัญ บ้านนเลขที่ 58 หมู่ที่ 1ตำบลเชียงขวัญ อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด นายเอกรัฐ พลซื่อ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี(กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) เป็นประธานในพิธีมอบโค โครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ จำนวน 50 ตัว โดยการดำเนินงานของ นายอำนาจ มะธิปิไข ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ดและคณะหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดร้อยเอ็ด ปศุสัตว์อำเภอเชียงขวัญ หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องเกษตรกรอำเภอเชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด
นายอำนาจ มะธิปิไข ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวรายงานว่า โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริให้กรมปศุสัตว์จัดตั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ให้มีโค-กระบือไว้ใช้แรงงาน เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและเพื่อให้มีโค-กระบือเป็นของตนเอง โดยวิธีให้ยืมเพื่อการผลิต
ปัจจุบันโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ ได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้ว เฉพาะในพื้นที่อำเภอเชียงขวัญ จำนวนกว่า 336 ราย คิดเป็นมูลค่ากว่า 9 ล้านบาท ซึ่งในปีงบประมาณ 2568นี้ มีเกษตรกรได้รับประโยชน์ไปแล้ว จำนวน 50 ครอบครัว คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,450,000 บาท ที่สามารถเพิ่ม GPP ให้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด
และในวันนี้ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์อำเภอเชียงขวัญ ได้จัดพิธีมอบโค โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ ให้แก่พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ตำบลเชียงขวัญ อำเภอเชียงขวัญ จำนวน 35 ราย โค จำนวน 35 ตัว ซึ่งในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการครั้งที่ 3
นายเอกรัฐ พลซื่อ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดี กับพี่น้องชาวอำเภอเชียงขวัญ ที่ได้เข้าร่วมโครงการการดีๆเช่นนี้ เป็นโครงการในพระราชดำริ ให้กรมปศุสัตว์จัดตั้งเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ให้มีโค-กระบือเป็นทรัพย์สินของตนเอง ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร มูลโค-กระบือจะช่วยในการฟื้นฟูทรัพยากรดิน และสามารถจำหน่ายเป็นรายได้ทางหนึ่ง
จากโค จำนวน 35 ตัว หากประเมินราคาตัวละ 29,000 บาท คิดเป็นมูลค่า รวมกว่า 1,015,000 บาท จึงถือว่าโครงการนี้ เป็นโครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนได้เป็นอย่างดี จึงขอให้ทุกท่านได้ดูแลโค ที่ยืมไปให้ดี ห้ามซื้อ-ขาย ภายในระยะเวลา 5 ปี เมื่อครบกำหนดทางราชการ จะทำหนังสือมอบให้เป็นกรรมสิทธิ์ และเป็นทรัพย์สินของท่าน
โคพระราชทานเหล่านี้ เมื่อท่านดูแลเอาใจใส่ดี ท่านก็จะพบพานแต่ความสุข ความเจริญ และขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานครั้งนี้
PTV/สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด/ข่าว
0957579184