ติวเข้มผู้นำต้นแบบเครือข่ายป.ป.ช.ร้อยเอ็ดพร้อมลงพื้นที่เพื่อปกป้องสาธารณสมบัติของแผ่นดินและการป้องกันปราบปรามการทุจริตในพื้นที่
PTV/สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด/ข่าว
เมื่อวันนี้ 23 ก.ค.2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมโรงแรมวันโอวันแกรนด์ร้อยเอ็ด อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด นายอนุชา พึ่งบุญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานพิธีเปิดและบรรยายพิเศษ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาเครือข่ายผู้นำชุมชนต้นแบบในการปกป้องสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน และการป้องกันปราบปรามการทุจริตจังหวัดร้อยเอ็ด โดยการดำเนินงานของ ดร.อุปกรณ์ ดีเสมอ ประธานเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคม จังหวัดร้อยเอ็ด และคณะรวม 18 คน โดยมีผู้นำต้นแบบจาก 20 อำเภอ จำนวน 200 คน เข้าร่วมประชุมอบรม ระหว่างวันที่ 23 – 24 ก.ค 2567 รวม 2 วัน 1 คืน หลังจากผ่านการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการแล้ว ผู้นำต้นแบบลงพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังปกป้องสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เพื่อรายงานข้อมูลสิ่งที่ได้พบเห็นไปยังกรรมการฯ เพื่อจะได้รวบรวมเสนอต่อกองทุนป.ป.ช.ต่อไป กิจกรรม อาทิ สถานการณ์การทุจริตในปัจจุบัน,การสร้างผู้นำต้นแบบ,แบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็นและการแก้ไขปัญหา,การสื่อสารฯ,การเสวนาการทุจริตฯ
ดร.อุปกรณ์ ดีเสมอ ประธานเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคม จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของ ภาคประชาชน ในการป้องกันการทุจริตเชิงรุก ด้วยการสำรวจและจับตามองพื้นที่ภายในจังหวัด ที่มีความเสี่ยงต่อการทุจริต การกระทำผิดกฎหมายการขัดกันของผลประโยชน์ หรือความเดือดร้อนของประชาชนอันอาจเกิดจากการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ และการสร้างกลไกการเชื่อมโยงกิจกรรมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนกับการปฏิบัติงานตามภารกิจของสำนักงาน ป.ป.ช.
ด้วยการนำผลการสำรวจและจับตามองของภาคประชาชนมาผ่านกระบวนการวิเคราะห์เพื่อนำสู่การแจ้งเบาะแสผ่านช่องทางของสำนักงาน ป.ป.ช. หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป
นายอนุชา พึ่งบุญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ จังหวัดร้อยเอ็ด ประธาน กล่าวว่า เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนและชุมชน มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับพิษภัยของการทุจริต รวมถึงค่านิยมที่เน้นการพึ่งพาระบบอุปถัมภ์ในสังคมเพื่อให้เกิดการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง ซึ่งการป้องกันและปราบปรามการทุจริต จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคม
ผมเห็นถึงความตั้งใจของคณะกรรมการดำเนินโครงการ ตลอดจนผู้นำชุมชนต้นแบบที่ผ่านการคัดเลือกมาจากชุมชนต่าง ๆ ทุกพื้นที่ จะได้นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้ไปประพฤติ ปฏิบัติในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและชุมชนโดยรวม หากชุมชนปราศจากการทุจริตทุกรูปแบบ ก็จะทำให้ชุมชนนั้นน่าอยู่อาศัยตลอดไป ในส่วนของกองทุน ป.ป.ช. จะพยายามจัดสรรเงินกองทุนให้แก่ องค์กรภาคประชาชน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการให้ได้มากที่สุด ส่วนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือและสนับสนุนตลอดไป
PTV/สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด/ข่าว/086643627
