PTV101จังหวัดร้อยเอ็ดขับเคลื่อนงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนผ่านกลไกศูนย์ดำรงธรรม”ดำรงธรรม ดำรงไทย”
สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด/ข่าว
เมื่อวันนี้ 12 ก.ค. 2566 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประดับเพชร โรงแรมเพชรรัชต์การ์เต้น อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด นายสนอง ดลประสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานดำเนินโครงการ “ประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนผ่านกลไกศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขับเคลื่อนและสนับสนุนการพัฒนาจังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖”
โดย นายพิชัยยา ตุระซอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะ ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการสังกัดราชการบริหารส่วนภูมิภาค นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด และนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด จำนวน 250 คน สำนักงานจังหวัดกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด โทร./โทรสาร 043519427″ดำรงธรรม ดำรงไทย”
นายพิชัยยา ตุระซอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด รายงานว่าโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเพิ่มทักษะบุคลากรของศูนย์ดำรงธรรมประจำหน่วยงาน อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอ รวมถึงข้าราชการจากส่วนราชการต่าง ๆ มีความรู้ความเข้าใจในภารกิจศูนย์ดำรงธรรม รองรับภารกิจการบริการและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพตลอดจนมีแนวทางในการบูรณาการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้สามารถยุติเห็นผลเป็นรูปธรรมและประชาชนพึงพอใจ
โดยได้รับเกียรติจากท่านอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด วิทยากรจากสำนักงานที่ดินจังหวัดร้อยเอ็ด และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้เข้าประชุม อีกทั้งจะได้มีการประชุมระคมความคิดเห็น โดยการแบ่งกลุ่มตามประเด็นปัญหาที่สำคัญ ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และทราบถึงปัญหาแนวทางการแก้ไขปัญหา ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะต่างๆ ร่วมกัน
นายสนอง ดลประสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญและมอบหมายภารกิจที่เป็นนโยบายเร่งด่วนให้ศูนย์ดำรงธรรมนำไปขับเคลื่อนนโยบายให้ได้ผลเป็นรูปธรรมในระดับพื้นที่ เช่น ปัญหาหนี้นอกระบบ ปัญหายาเสพติดการขอที่ดินทำกินและการประกอบอาชีพ และการแก้ปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ประชาชาชนที่เข้ามารับบริการและร้องเรียนร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรม ปัจจุบันการร้องเรียนร้องทุกข์มีรูปแบบที่หลากหลาย เช่น ร้องเรียนผ่านสื่อมวลขน สื่อโซเชียลต่าง ๆ เช่น เฟสบุ๊ค และแอปพลิเคชัน ไลน์ฯ เป็นต้น
ดังนั้น ศูนย์ดำรงธรรมในทุกระดับต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้สามารถแก้ไขปัญหาและสนองตอบต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งการตอบโต้ข่าวสารต่างๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงานศูนย์ดำรงธรรม ให้สามารถบริการและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องต่อเนื่อง เข้มแข็ง และยั่งยืนต่อไป
PTV101/สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด/0885730542-ข่าว
