ร้อยเอ็ดชาวอําเภอพนมไพรเปิดงานสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟขอฝนชิงถ้วยพระราชทาน อย่างยิ่งใหญ่อลังการ/PTV/สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด-ข่าว

ร้อยเอ็ดชาวอําเภอพนมไพรเปิดงานสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟขอฝนชิงถ้วยพระราชทาน อย่างยิ่งใหญ่อลังการ

PTV/สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด-ข่าว

วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566 เวลา 10.00 น. นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟอําเภอพนมไพร ประจําปี 2566 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ บริเวณถนนหน้าสาธารณสุขอำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายสุเทพ พิมพิรัตน์ นายอำเภอพนมไพร นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพี่น้องประชาชนในพื้นที่และใกล้เคียง เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ประกอบด้วย การประกวดขบวนแห่บั้งไฟสวยงาม ชิงถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประกวดสาวงามนางป้าย ประกวดขบวนแห่บั้งไฟเอ้ใหญ่ บั้งไฟโบราณ ขบวนฟ้อนรำจากคณะนางรำที่มีชื่อเสียง และการละเล่นต่างๆ เกี่ยวกับตำนานประเพณีบุญบั้งไฟตลอดทั้งวันที่สุดยิ่งใหญ่อลังการ โดยงานประเพณีบุญบั้งไฟอำเภอพนมไพร จะจัดระหว่างวันที่ 2 ถึง 4 มิถุนายน 2566 โดยวันสุดท้ายนั้น จะเป็นวันจุดบั้งไฟ ที่มีบั้งไฟมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ชาวอำเภอพนมไพรจะร่วมกันนำบั้งไฟมาจุดถวายองค์พระมหาธาตุ วัดกลางอุดมเวทย์ มากกว่า 1,000 บั้ง อีกด้วย

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า งานบุญบั้งไฟของชาวพนมไพร เป็นประเพณีที่มีมาแต่โบราณกาลอย่างมั่นคง โดยได้กำหนดจัดงานฯไว้เป็นการแน่นอน คือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 7 เป็นวันแห่บั้งไฟ และวันแรม 1 ค่ำเดือน 7 เป็นวันจุดบั้งไฟ ซึ่งถือเป็นการนัดหมาย หรือข้อตกลงร่วมกันทางประเพณี ที่ชาวอำเภอพนมไพรทุกคนได้ยึดปฏิบัติกันมาจนถึงปัจจุบัน โดยในวันนี้ของทุกปี ชาวอำเภอพนมไพรจะกลับมาร่วมงานประเพณีบุญบั้งไฟและถวายสักการะแด่องค์พระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว ที่สำคัญอีกประการ คือพี่น้องประชาชนน้องชาวอำเภอพนมไพร จะได้แสดงความรัก ความสามัคคี ความพร้อมเพรียง ในการเสียสละบริจาคปัจจัยเพื่อร่วมจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ นั่นคือการแสดงให้เห็นว่าพี่น้องชาวอำเภอพนมไพรได้ตระหนัก และเห็นความสำคัญของงานประเพณีที่มีมาแต่โบราณ และเชื่อว่านับแต่นี้ต่อไป จะต้องมีการพัฒนาก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง และเป็นงานประเพณีอันยิ่งใหญ่ของจังหวัดร้อยเอ็ดสืบไป คนไทยจะได้รู้จัก และมาเที่ยวชมงานประเพณีบุญบั้งไฟอันยิ่งใหญ่นี้ตลอดไป