จังหวัดร้อยเอ็ดประกาศฉบับที่37เพื่อป้องกันโรคโควิด-19ผู้เดินทางเข้าพื้นที่ปฏิบัติตามมาตรการเข้มฝ่าฝืนมีโทษจำหรือปรับ /PTV/ชสอท./สมนึก-ประธาน/กต.ตร.สภ.เมืองรอ./0957579184-รายงาน

จังหวัดร้อยเอ็ดประกาศฉบับที่37เพื่อป้องกันโรคโควิด-19ผู้เดินทางเข้าพื้นที่ปฏิบัติตามมาตรการเข้มฝ่าฝืนมีโทษจำหรือปรับ

/PTV/ชสอท./สมนึก-ประธาน/กต.ตร.สภ.เมืองรอ./0957579184-รายงาน

นาชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้กำกับการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดร้อยเอ็ด ได้มีประกาศจังหวัดร้อยเอ็ด เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (ฉบับที่ 37) โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ดตามมติที่ประชุมครั้งที่ 41/2564 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมพ.ศ. 2564

จึงกำหนดมาตรการควบคุมป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดังต่อไปนี้
1. การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามประกาศจังหวัดร้อยเอ็ด ให้ส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคตามประกาศจังหวัดร้อยเอ็ด ฉบับนี้และฉบับที่แล้วมา ที่ยังมีผลบังคับใช้ ตามบัญชีสรุปมาตรการประกาศจังหวัดร้อยเอ็ด แนบท้ายประกาศนี้


2. มาตรการกี่ยวกับการเดินทางเข้าในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด
2.1 ผู้ติดเชื้อจากพื้นที่จังหวัดอื่นที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัดร้อยเอ็ด ให้ดำเนินการดังนี้
1) ประสานการเดินทางล่วงหน้ากับ โรงพยาบาลหรือศูนย์รับช่วยเหลือตามหมายเลชโทรศัพท์ หรือโรงพยาบาล ทุกแห่ง
2) เมื่อได้รับลงทะเบียนและการนัดหมายจากเจ้าหน้าที่ จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
3) เมื่อเดินทางถึงพื้นที่จะต้องรายงานตัวที่โรงพยาบาลในพื้นที่ หรือตามที่นัดหมาย พร้อมแสดงหลักฐานการตรวจและเอกสารที่เกี่ยวช้องและให้โรงพยาบาลประเมินการรักษาพยาบาล
4) ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำให้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล/โรงพยาบาลสนาม/สถานที่กักกันตัวตามการประเมินของเจ้าหน้าที่
2.2 ประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือประชาชนทั่วไป
2.21 หากประชาชนที่เดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) (ศบค) กำหนด จำนวน 13 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดพระนศรศรีอยุธยา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปีตตานี จังหวัดยะลา และ จังหวัดสงขลา เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือทำนักในพื้นที่ จังหวัดร้อยเอ็ด ให้ปฏิบัติตนตามชั้นตอน ดังนี้
1)แจ้งล่วงหน้าก่อนข้าพื้นที่ต่อ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำซุมน อสน. หรือเจ้าหนัาที่สาถารณสุขในพื้นที่
2) เมื่อเดินทางเข้าพื้นที่ ให้รายงานตัวต่อ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน อสม. หรือเจ้าหน้าที่
สาธารณสุขในพื้นที่
3) ลงทะเบียนแอพพลิเคชั่น ของจังหวัดร้อยเอ็ดอย่างเคร่งครัด
4) กักตัว 14 วัน และปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคของทางราชการกำหนด
เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือพำนักในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ให้ปฏิบัติตนตามขั้นตอน ดังนี้
2.22 ผู้เดินทางจากจังหวัดอื่นๆ (นอกจาก 13 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด) เพื่อ
สาธารณสุขในพื้นที่
1) แจ้งล่วงหน้าก่อนเข้าพื้นที่ต่อ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน อสม. หรือเจ้าหน้าที่
2) เมื่อเดินทางเข้าพื้นที่ ให้รายงานตัวต่อ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน อสม. หรือเจ้าหน้าที่
สาธารณสุขในพื้นที่
3) ลงทะเบียนแอพพลิเคชั่น ของจังหวัดร้อยเอ็ต
4) ให้สังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 14 วัน และปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคของทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด
3. มาตรการดำเนินกิจการ หรือกิจกรรม ภายใต้เงื่อนไข ที่กำหนด ดังนี้
3.1 ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกิน เวลา 21.00 น.โดยห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน
3.2 สนามกีฬา สถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกิน เวลา 21.00 น. และสามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าชมในสนาม เมื่อได้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด.
3.3 ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่าหนึ่งร้อยคนเว้นแต่ใด้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด หรือเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรค และให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด


ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้ ข้อ 1. ถึง ข้อ 3. มีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือ มาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 จนกว่าจะมีคำสั่งหรือประกาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะได้มีการประเมินผลเป็นระยะเพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติให้เหมาะสม กับสถานการณ์ต่อไป ประกาศ ณ วันที่ 21 กรกฎาคม 2564

/PALANCHAI TV/ชมรมสื่อออนไลน์IT/สมนึก บุญศรี-ประธาน/กต.ตร.สภ.เมืองร้อยเอ็ด/0957579184-รายงาน

Related posts