ร้อยเอ็ด ตำรวจเข้าขอขมาศพ ชี้แจงต่อครอบครัวหนุ่มคลั่งถูกวิสามัญ เผยทำตามยุทธวิธีเพื่อป้องกันตัว
/PTV/ชสอท./สมนึก-วิเศษ/0885730542-รายงาน
เมื่อวันที่ 29 พ.ค.64 พ.ต.ท.ธิติ โพธิ์ศรี สารวัตรใหญ่ สภ.สว่าง ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ยศวริศ อันทบุตร สารวัตรสืบสวน สภ.สว่าง พร้อม ดาบตำรวจ ด.ต.ธงชัย ไชยมี ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สว่าง นำพวงหรีดไปวางในงานฌาปนกิจศพของอนุวัฒน์ ชมภูพฤกษ์ ผู้เสียชีวิตจากเหตุวิสามัญเมื่อวันที่ 26 ที่ผ่านมา หลังจากนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านพัก
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 เวลา 10.00 น. ร.ต.อ วีระพงษ์ วิเท่ห์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สว่าง ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงด้วยอาวุธปืน ที่บ้านพักหลังหนึ่ง บ.ดงกลาง ต.โคก กก ม่วง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด จึงรุดออกตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภจว.ร้อยเอ็ด แพทย์เวร รพ.โพนทอง
ถึงจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณห้องครัว ด้านหลังบ้านพักสองชั้น ครึ่งปูน-ครึ่งไม้ พบศพชายนอนหงายหน้าจมกองเลือด อยู่พื้นห้องครัว ตรวจสอบพบบาดแผล พบมีดสปาต้า ยาว 50 ซม. มีรอยเปื้อนเลือดที่คมมีด ตกอยู่ข้างศพด้านขวา พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ 3 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจึงเจ้าทำการเก็บหลักฐานในจุดเกิดเหตุ แพทย์เวรทำการชันสูตรพลิกศพ พบบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนบริเวณกลางหน้าอก และข้อเท้าด้านขวา 2 จุด ทราบชื่อผู้ตายคือนายอนุวัฒน์ ชมภูพฤกษ์ อายุ 28 ปี เบื้องต้นได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปผ่าพิสูจน์ทางนิติเวช ที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น รวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการในวันเกิดเหตุ ได้จุดธูปเพื่อเคารพศพ และเข้าชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยชี้แจ้งว่า การวิสามัญฆาตกรรม คือหลักการป้องกันตัวของเจ้าหน้าที่ คือการที่เจ้าหน้าที่รู้สึกมีภัยอันตรายที่มีการละเมิดกฎหมาย ใช้กำลังเพื่อตอบโต้ต่อภัยอันตรายนั้น แล้วมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น ไม่ได้เป็นการตั้งใจหมายจะเอาชีวิตแต่อย่างใด โดยมียายและแม่ของผู้ตายนั่งรับฟัง โดยเบื้องต้นได้เกิดความเข้าใจในขั้นตอนของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะมอบเงินจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือจัดการศพในเบื้องต้น หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เข้าช่วยเหลือในการจัดงานฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.)
ด้านนางระวิวรรณ บุญย่อ แม่ของผู้ตายได้กล่าวว่า ตั้มเริ่มมีอาการเมื่ออายุได้ 19 ปี ก็เริ่มมีเพื่อนฝูงและออกจากบ้านไปข้างนอกพอกลับมาก็จะมีกินเหล้ามีกลิ่นบุหรี่ จนกระทั่งถึงช่วงอายุประมาณ 23 ปี ก็เริ่มมีอารมณ์รุนแรงขึ้น มีอาการเอะอะโวยวาย ทำร้ายข้าวของ พูดดุด่ายาย ซึ่งตนก็ส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช จ.ขอนแก่นและร้อยเอ็ด ซึ่งหลังจากรับยาจิตเวชก็มีอาการดีขึ้น แต่พอกลับมาอยู่บ้านมาเจอเพื่อนฝูงก็ชักชวนกันให้ไปทำในสิ่งไม่ดี จึงกลับมาเป็นเหมือนเดิม ส่วนในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ยอมรับในขั้นตอนในการเข้าระงับเหตุในครั้งนี้ ว่าเป็นการป้องกันตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะลูกชายของตนก็มีอาวุธมีด หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ป้องกันตัวอาจจะเกิดการสูญเสียเพิ่มขึ้นอีก
/PALANCHAI TV/ชมรมสื่อออนไลน์IT/สมนึก บุญศรี-ประธาน/วิเศษ นันทะศรี-รอง.ปธ./0885730542-รายงาน