จังหวัดร้อยเอ็ด ประกาศมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
(ฉบับที่ ๑๗)
/PTV/ชสอท./สมนึก-ประธาน/0817082129-รายงาน
ตามที่ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด ได้มีประกาศปิดสถานที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค เป็นการชั่วคราว ตามประกาศจังหวัดร้อยเอ็ด(ฉบับที่ 15 ) ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2563 (ฉบับที่ 16) ลงวันที่ 3 มกราคม 2564 ไปแล้ว นั้น
ปัจจุบันพบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ยังคงปรากฏอยู่ในหลายพื้นที่ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการแพรระบาด อันเปนการปกป้องความมั่นคง ความปลอดภัยด้านสาธารณสุข
ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด ตามมติที่ประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ จึงปิดสถานที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคเป็นการชั่วคราว เพิ่มเติม พร้อมกําหนดมาตรการการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ดังต่อไปนี้
๑. ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค
1.1 ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานบันเทิง
1.2 สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายสถานบริการ (ตามบัญชีแนบท้ายประกาศนี้)
๒. ให้เจ้าของหรือผู้ดําเนินกิจการในสถานที่ต่อไปนี้ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคของทางราชการกําหนด อย่างเคร่งครัด (ตามมาตรการแนบท้ายประกาศนี้)
สถานที่จําหน่ายอาหาร สุรา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่น โดยไม่มีการแสดงดนตรีสด
ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตาม มาตรา ๕๒ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ ต้องจําคุก ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา๑๘ แห่ง
พระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕4๘ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ และหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อ 2 จะถูกสั่งปิดสถานที่หรือสั่งให้งดการบริการเป็นการชั่วคราว
เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจําเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๕ มกราคม 2564 เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. 256๔
(นายชยันต์ ศิริมาศ)
ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด
ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด
ผู้กํากับการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดร้อยเอ็ด
/PALANCHAI TV/MOITC/ชมรมสื่อออนไลน์IT/สมนึก บุญศรี-ประธาน/0817082129-ข่าว
Cr.ปชส.รอ.
